เครื่องคอริ่ง

เลือกซื้อเครื่องคอริ่งแบบไหนดี? รวมประเภทและการใช้งานที่ควรรู้

เครื่องคอริ่ง หรือ Core Drill เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ในงานก่อสร้าง งานต่อเติม หรือซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีต ไม่ว่าจะเป็นการเจาะพื้น ผนัง หรือเสา เครื่องคอริ่งช่วยให้การเจาะคอนกรีตทำได้อย่างเรียบเนียน แม่นยำ และปลอดภัย แต่การเลือกเครื่องคอริ่งให้เหมาะสมกับงานนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีหลายประเภท หลายขนาด และหลายฟังก์ชันให้เลือกใช้ บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจวิธีเลือกซื้อเครื่องคอริ่ง พร้อมแนะนำประเภทและการใช้งานแต่ละแบบ เพื่อให้คุณได้เครื่องมือที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุดกับหน้างานของคุณ

เครื่องคอริ่งมีกี่ประเภท? และแต่ละแบบเหมาะกับงานแบบไหน?

1. เครื่องคอริ่งแบบมือถือ (Handheld Core Drill)

  • ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
  • เหมาะกับงานเจาะคอนกรีตขนาดเล็ก หรือพื้นที่จำกัด เช่น งานเดินท่อไฟฟ้าในบ้าน
  • ใช้เจาะพื้นหรือผนังบาง ๆ ที่ไม่ต้องการเจาะลึก
  • เครื่องคอริ่งใช้ได้กับเสาขนาดเล็กหรือเจาะตื้น แต่ถ้าเป็นงานโครงสร้างใหญ่แนะนำเครื่องตั้งพื้นจะเหมาะกว่า

2. เครื่องคอริ่งแบบตั้งพื้น (Stand Mounted Core Drill)

  • มีฐานตั้งยึดกับพื้นหรือผนังได้แน่นหนา
  • เหมาะกับงานเจาะลึก เจาะหนา เช่น เจาะเสา เจาะพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก
  • ใช้ในงานอุตสาหกรรมหรืองานโครงการขนาดใหญ่
  • ใช้ในงานบ้านต้องเจาะพื้นหรือผนังลึก และต้องการความแม่นยำสูง ใช้ได้เช่นกัน แต่ต้องดูพื้นที่ในการตั้งฐานเครื่องด้วย

3. เครื่องคอริ่งระบบน้ำ (Water-Cooled Core Drill)

  • ใช้น้ำหล่อเย็นขณะเจาะ ลดความร้อนของดอกเจาะ
  • เหมาะกับงานเจาะต่อเนื่อง เจาะคอนกรีตแข็งหนา
  • ป้องกันฝุ่นและยืดอายุการใช้งานของเครื่อง

 4. เครื่องคอริ่งระบบแห้ง (Dry Core Drill)

  • ไม่ต้องใช้น้ำ เหมาะกับหน้างานที่ไม่มีแหล่งน้ำหรือพื้นที่แห้ง
  • ใช้เจาะผนังเบา อิฐมวลเบา หรือคอนกรีตบาง ๆ
  • ไม่เหมาะกับงานหนัก หรืองานที่ต้องการเจาะลึก

วิธีเลือกซื้อเครื่องคอริ่งให้เหมาะกับงานของคุณ

  1. ขนาดและประเภทของงาน: ถ้าต้องการเจาะลึก เจาะหนา หรือเจาะเสา ควรเลือกเครื่องตั้งพื้น แต่ถ้าเป็นงานเบา เลือกแบบมือถือก็เพียงพอ
  2. กำลังวัตต์ของเครื่อง: เลือกเครื่องที่มีกำลังเหมาะสม เช่น 1800W ขึ้นไปสำหรับงานหนัก
  3. ขนาดดอกเจาะที่รองรับ: ตรวจสอบว่าเครื่องรองรับดอกเจาะขนาดที่ต้องใช้ เช่น Ø18-Ø90 มม.
  4. ระบบหล่อเย็น: เลือกแบบใช้น้ำหรือแห้งให้เหมาะกับหน้างาน
  5. งบประมาณ: เครื่องคอริ่งมีหลากหลายราคา ควรเลือกตามคุณภาพและการรับประกัน 
  6. งบประมาณจำกัด : เลือกเครื่องคอริ่งมือถืองานเบาจากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ และมีอะไหล่รองรับ จะคุ้มค่ากับงบประมาณที่มีมากที่สุด

แนะนำแบรนด์เครื่องคอริ่งยอดนิยมในตลาด

  • Hilti: แข็งแรง ทนทาน ใช้ในงานอุตสาหกรรมหนัก
  • Makita: เหมาะกับงานทั่วไป คุณภาพดี ราคากลาง
  • Bosch: ใช้งานง่าย รุ่นหลากหลาย รองรับงานเบา-กลาง
  • Tyrolit: เชี่ยวชาญด้านงานคอริ่งโดยเฉพาะ

ข้อควรรู้ก่อนซื้อเครื่องคอริ่ง

  • ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์เสริม เช่น ฐานยึด, ดอกเจาะฟันเพชร
  • ควรเลือกเครื่องที่มีศูนย์บริการใกล้บ้าน
  • เลือกเครื่องที่มีระบบความปลอดภัย เช่น สวิตซ์หยุดฉุกเฉิน
  • เช็กรีวิวจากผู้ใช้งานจริง เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ

 

สรุป – เลือกเครื่องคอริ่งให้เหมาะ งานเจาะคอนกรีตก็ง่ายขึ้น

การเลือกซื้อเครื่องคอริ่งให้เหมาะกับประเภทงานเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้งานเจาะคอนกรีตมีคุณภาพ ประหยัดเวลา และปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นงานเบาหรือหนัก หากคุณรู้จักประเภทของเครื่องคอริ่ง และเลือกซื้อโดยพิจารณาจากลักษณะงานจริง จะทำให้คุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว

 

หากต้องการเครื่องคอริ่งคุณภาพสูง พร้อมดอกเจาะฟันเพชร
และบริการให้คำปรึกษา ติดต่อเราได้ทันที! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ