การใช้งานเครื่องสแกนเหล็ก Hilti

วิธีเลือกเครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีตให้เหมาะกับงานของคุณ

ในงานก่อสร้างหรืองานวิศวกรรมโครงสร้าง การเจาะคอนกรีตโดยไม่รู้ว่าภายในมีเหล็กเสริมหรือไม่ อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อโครงสร้างหรืออุปกรณ์อย่างร้ายแรง เครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีต จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ “ต้องมี” โดยเฉพาะในยุคที่ความแม่นยำและความปลอดภัยเป็นเรื่องหลัก

 

เครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีตคืออะไร?

เครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีต (Concrete Rebar Scanner) คืออุปกรณ์ที่ใช้เพื่อตรวจสอบตำแหน่งเหล็กเสริมภายในคอนกรีต ก่อนดำเนินการเจาะ ตัด หรือก่อสร้างเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสียหายหรืออันตรายจากการเจาะพลาด

ประโยชน์ที่ได้จากการใช้เครื่องสแกนเหล็ก

  • ลดความเสี่ยงจากการเจาะโดนเหล็กเสริม
  • ป้องกันความเสียหายต่อโครงสร้าง
  • เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน
  • ช่วยประเมินคุณภาพและตำแหน่งเหล็กเสริม

 

ประเภทของเทคโนโลยีเครื่องสแกนเหล็กที่ควรรู้

1. Electromagnetic (EM) / Induction Scanner

  • ใช้หลักการเหนี่ยวนำไฟฟ้าเพื่อตรวจหาเหล็ก
  • แสดงผลตำแหน่ง ความลึก และระยะห่างของเหล็ก
  • เหมาะกับงานทั่วไป เช่น งานติดตั้งพุกเคมี หรืองานฝังท่อ

2. Ground Penetrating Radar (GPR)

  • ใช้คลื่นเรดาร์ทะลุลงไปในโครงสร้าง เพื่อสแกนเหล็กและวัตถุอื่น ๆ เช่น ท่อ PVC, สายไฟ
  • ให้ข้อมูลละเอียดมากขึ้น เหมาะกับงานโครงสร้างขนาดใหญ่ หรืองานที่มีความซับซ้อน

3. เครื่องไฮบริด (GPR + EM)

  • รวมจุดเด่นทั้งสองเทคโนโลยี
  • มีราคาสูง แต่มักใช้ในงานตรวจสอบความปลอดภัยในอาคารสูง หรือโครงการวิศวกรรมสำคัญ

 

ปัจจัยที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกเครื่องสแกนเหล็ก

1. ลักษณะงานที่ใช้

  • งานติดตั้งระบบ: ใช้ EM ก็เพียงพอ
  • งานวิเคราะห์โครงสร้าง: ใช้ GPR เพื่อความแม่นยำ
  • งานในที่แคบ: ต้องเลือกเครื่องที่มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย

2. ความลึกในการสแกน

  • EM: สแกนได้ลึกประมาณ 5–8 ซม.
  • GPR: สแกนได้ลึกถึง 30 ซม. หรือมากกว่า

3. ความสามารถในการแสดงผล

  • หน้าจอแสดงผล 2D หรือ 3D
  • การ Export ข้อมูล (PDF / DXF / Cloud Report)
  • มีระบบวิเคราะห์หรือ AI ช่วยตีความ

4. ความง่ายในการใช้งาน

  • มีเมนูภาษาไทยหรือไม่
  • ฟีเจอร์ Auto Calibrate
  • น้ำหนักและขนาดเครื่อง

คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือกเครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีต

  1. เครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีตสามารถตรวจจับท่อหรือสายไฟได้หรือไม่?
    เครื่องสแกนแบบ GPR (Ground Penetrating Radar) สามารถตรวจจับวัตถุต่างๆ ที่ฝังอยู่ในคอนกรีตได้หลากหลายกว่า ซึ่งรวมถึง ท่อ PVC และ สายไฟ ในขณะที่เครื่องสแกนแบบ Electromagnetic (EM) จะเน้นการตรวจจับเฉพาะโลหะเท่านั้น

  2. ควรเลือกเครื่องสแกนแบบ EM หรือ GPR ดีกว่ากัน?
    ขึ้นอยู่กับลักษณะงานและความลึกที่ต้องการ หากเป็นงานติดตั้งทั่วไปที่ความลึกไม่มาก (ไม่เกิน 5-8 ซม.) เครื่องแบบ EM ก็เพียงพอและมีราคาย่อมเยากว่า แต่ถ้าเป็น งานวิเคราะห์โครงสร้าง ที่ต้องการความละเอียดและความลึกมาก ควรเลือกใช้เครื่องแบบ GPR เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำกว่า

  3. การสแกนคอนกรีตก่อนเจาะมีความสำคัญต่อโครงสร้างอาคารอย่างไร?
    มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ ความแข็งแรงของโครงสร้าง เพราะการเจาะพลาดโดนเหล็กเสริมหลักๆ ภายในคอนกรีต อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของเสาหรือพื้นได้ในระยะยาว การสแกนจึงเป็นมาตรการป้องกันที่ช่วยให้วิศวกรสามารถเลี่ยงจุดสำคัญได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ

  4. เครื่องสแกนแบบ GPR สามารถสแกนได้ลึกสูงสุดเท่าไหร่?
    เครื่องสแกนแบบ GPR สามารถสแกนได้ลึกกว่าเครื่องแบบ EM โดยรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถสแกนได้ลึกถึง 30 ซม. หรือมากกว่า ความลึกในการสแกนนี้ทำให้เหมาะสำหรับงานตรวจสอบโครงสร้างขนาดใหญ่ หรือการหาตำแหน่งของวัตถุที่ฝังอยู่ลึกในคอนกรีต

 

เลือกเครื่องสแกนเหล็กให้ตรงกับงาน ลดความเสี่ยง เพิ่มความแม่นยำ

การเลือกเครื่องสแกนเหล็กในคอนกรีตไม่ใช่แค่เรื่อง “เทคโนโลยี” แต่คือการ เพิ่มความปลอดภัย ลดต้นทุน และยืดอายุโครงสร้าง การเข้าใจประเภทงาน ความลึกที่ต้องการ และความแม่นยำที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ถูกต้อง และไม่เจาะพลาด

 

ติดต่อทีมงานของเรา เพื่อขอคำแนะนำเครื่องสแกนเหล็กที่เหมาะกับโครงการของคุณ