
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนใช้กระบอกคอริ่ง วิธีเตรียมตัวและข้อควรระวังที่มืออาชีพแนะนำ
หากคุณเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง วิศวกร หรือช่างเทคนิคที่ต้อง “เจาะคอนกรีต” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อฝังพุกเคมี ติดตั้งท่อ หรือตรวจสอบโครงสร้าง “กระบอกคอริ่ง” คงเป็นหนึ่งในเครื่องมือหลักที่คุณคุ้นเคย
แต่รู้หรือไม่ว่าแม้จะเป็นเครื่องมือพื้นฐานแต่หากใช้อย่างไม่เข้าใจอาจส่งผลต่อความปลอดภัยประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของตัวกระบอกเอง รวมถึงโครงสร้างโดยรอบ
นิยามและหน้าที่ของกระบอกคอริ่ง
กระบอกคอริ่ง (Core Barrel) เป็นอุปกรณ์เจาะที่ติดตั้งกับเครื่องเจาะคอนกรีตแบบโรตารี่ มีลักษณะเป็นกระบอกกลวง มีฟันเพชร (Diamond Tip) หรือคาร์ไบด์รอบปาก เพื่อเจาะคอนกรีตชนิดแข็งแรง เช่น พื้นโรงงาน เสาคอนกรีต หรือผนังหนา
งานที่ใช้กระบอกคอริ่งเป็นประจำ
- งานฝังพุกเคมี (Chemical Anchor)
- ติดตั้งท่อระบบ MEP (ไฟฟ้า/ประปา)
- เจาะแกนคอนกรีตเพื่อทดสอบคุณภาพ (Core Test)
- งานตกแต่งหรือเปิดช่องบนโครงสร้างอาคาร
ข้อควรรู้ก่อนใช้งานกระบอกคอริ่ง
1. ตรวจสอบสภาพเครื่องและกระบอก
ก่อนใช้งานควรเช็กดังนี้:
- ฟันเพชร/ใบมีดอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีบิ่น
- ไม่มีสนิมหรือรอยรั่วที่ตัวกระบอก
- ตรวจสอบการยึดเกลียวกับก้านเจาะแน่นหนา
2. เลือกขนาดกระบอกให้เหมาะกับงาน
คำถามยอดนิยม: กระบอกคอริ่งมีกี่ขนาด?
- ขนาดทั่วไป: Ø25 mm ถึง Ø150 mm (หรือมากกว่า)
- สำหรับเจาะพุก: 25–32 mm
- สำหรับเจาะท่อ: 50 mm ขึ้นไป
ข้อควรระวัง: หากเลือกขนาดไม่เหมาะ อาจเจาะไม่ลึก หรือเครื่องทำงานหนักเกินไปจนพัง
3. การใช้ “น้ำหล่อเย็น” ให้ถูกต้อง
- ใช้เพื่อระบายความร้อนจากแรงเสียดสี
- ลดการสึกของฟันเพชร
- ป้องกันฝุ่นคอนกรีตที่อันตรายต่อระบบหายใจ
Tips: อย่าใช้น้ำแรงเกินไปจนทำให้เกิดแรงดันย้อนกลับ
4. เตรียมพื้นที่หน้างานให้ปลอดภัย
- เคลียร์พื้นที่รอบจุดเจาะ
- ติดตั้งแผงกันฝุ่นหรือน้ำกระเซ็น
- ติดตั้งฐานเครื่องเจาะให้แน่น (หากใช้เครื่องตั้งพื้น)
สิ่งที่ควรระวังระหว่างการใช้งาน
1. ความเร็วรอบที่เหมาะสม
ผู้ใช้จำนวนมากตั้งรอบเครื่องสูงเกินไปเพื่อเร่งงาน
ผลลัพธ์: ฟันเพชรสึกไว กระบอกร้อนเร็ว และเสี่ยงอุบัติเหตุ
2. เจาะโดนเหล็กเสริมในคอนกรีต
- ควรวางแผนตำแหน่งก่อนเจาะ โดยใช้เครื่องตรวจหาเหล็ก (Rebar Scanner)
- หากจำเป็นต้องเจาะทะลุ ควรใช้ฟันเพชรเกรดพิเศษ
3. แรงกดของผู้เจาะ
ไม่ควรกดแรงด้วยมือขณะเจาะ ให้ใช้เครื่องทำงานตามจังหวะ
- แรงมากไป: ฟันหักง่าย / เครื่องร้อน
- แรงน้อยไป: เจาะไม่ลง / ใช้เวลานาน
เคล็ดลับยืดอายุการใช้งานกระบอกคอริ่ง
- ล้างกระบอกทันทีหลังใช้งาน ไม่ให้เศษปูนติด
- เก็บในที่แห้ง ไม่มีความชื้น
- หลีกเลี่ยงการโยนหรือกระแทก
- ใช้เฉพาะกับเครื่องที่รองรับ (ความเร็วรอบ & แรงดัน)
คำถาม-คำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใช้กระบอกคอริ่ง
- ทำไมจึงจำเป็นต้องใช้ "น้ำหล่อเย็น" ในการเจาะด้วยกระบอกคอริ่ง?
การใช้น้ำหล่อเย็นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะช่วย ระบายความร้อน ที่เกิดจากแรงเสียดสีระหว่างฟันเพชรกับคอนกรีต นอกจากนี้ยังช่วยลดการสึกหรอของฟันเพชร และลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นคอนกรีตที่อาจเป็นอันตรายต่อระบบหายใจของผู้ปฏิบัติงานด้วย - หากต้องการเจาะเพื่อฝังพุกเคมี ควรเลือกกระบอกคอริ่งขนาดเท่าไหร่?
สำหรับงานเจาะฝังพุกเคมี ควรเลือกกระบอกคอริ่งที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ Ø25 mm ถึง Ø32 mm ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง และให้รูเจาะที่เรียบร้อยสำหรับยึดเกลียวหรือเหล็กเส้นของพุกเคมี - การตั้งความเร็วรอบเครื่องสูงเกินไปมีผลเสียอย่างไร?
การตั้งความเร็วรอบเครื่องสูงเกินไปจะทำให้ ฟันเพชรสึกหรอไวมาก และทำให้กระบอกร้อนเร็วกว่าปกติ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของกระบอกคอริ่งลงอย่างมาก และอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องได้ ดังนั้นควรใช้ความเร็วรอบที่เหมาะสมตามคำแนะนำของผู้ผลิต - ควรทำความสะอาดกระบอกคอริ่งหลังการใช้งานอย่างไร?
ควร ล้างกระบอกคอริ่งด้วยน้ำสะอาดทันที หลังการใช้งาน เพื่อไม่ให้เศษปูนหรือตะกอนคอนกรีตเกาะติดหรือแข็งตัวอยู่ภายในกระบอก หลังจากล้างแล้ว ควรเช็ดหรือเป่าให้แห้งและเก็บในที่ที่ไม่มีความชื้น เพื่อป้องกันการเกิดสนิม
ใช้กระบอกคอริ่งอย่างมือโปร
การใช้งานกระบอกคอริ่งไม่ใช่เรื่องยาก — แต่ต้องเข้าใจหลักการ ความปลอดภัย และข้อควรระวัง เพื่อยืดอายุอุปกรณ์ เพิ่มความแม่นยำ และลดต้นทุนโดยไม่เสี่ยงโครงสร้างเสียหาย
หากคุณคือผู้ประกอบการหรือช่างมืออาชีพ อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มงานทุกครั้ง และเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน เช่น กระบอกคอริ่งจาก Hilti, TAMTON หรือแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง

